ขั้นตอนหลักของการฉีดพลาสติก – เข้าใจครบในบทความเดียว การ ฉีดพลาสติก (Plastic Injection Molding) คือหนึ่งในเทคนิคการผลิตที่สำคัญและแพร่หลายที่สุดในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล่องบรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วสินค้าในชีวิตประจำวันจำนวนมากเกิดจากการ ฉีดพลาสติก แทบทั้งสิ้น การเข้าใจ ขั้นตอนหลักของการฉีดพลาสติก จะช่วยให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่ต้องการสั่งผลิตชิ้นงานวางแผนได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาด และควบคุมต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
- บทบาทของฉีดพลาสติกในยานยนต์
- เคล็ดลับ และความสำคัญในการดูแลรักษาแม่พิมพ์สำหรับงานฉีดพลาสติก
- พื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการฉีดพลาสติก
1. การเตรียมวัตถุดิบ – จุดเริ่มต้นของคุณภาพงานฉีดพลาสติก
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการ ฉีดพลาสติก สิ่งสำคัญคือการเลือกเม็ดพลาสติกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น
- ABS – แข็งแรง ทนกระแทก ใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
- PP (Polypropylene) – ทนสารเคมี ความร้อน เหมาะกับบรรจุภัณฑ์
- PC (Polycarbonate) – โปร่งใส แข็งแรง ใช้กับชิ้นส่วนที่ต้องการความใส
วัตถุดิบพลาสติกมักถูกอบแห้งเพื่อลดความชื้น เพราะความชื้นที่ตกค้างอาจทำให้เกิดฟองอากาศหรือทำให้ชิ้นงานมีตำหนิ การเตรียมวัตถุดิบที่ดีคือจุดเริ่มต้นของงาน ฉีดพลาสติก ที่มีคุณภาพ
2. การหลอมพลาสติก – เปลี่ยนของแข็งเป็นของเหลว
เมื่อวัตถุดิบถูกส่งเข้ากระบอกฉีด (Barrel) เครื่องจักรจะให้ความร้อนอย่างต่อเนื่อง พลาสติกจะละลายจนกลายเป็นของเหลว การควบคุมอุณหภูมิมีความสำคัญมาก เพราะถ้าร้อนเกินไปอาจทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ แต่ถ้าต่ำเกินไปพลาสติกจะไม่ไหลเข้าสู่แม่พิมพ์ได้เต็มที่ ส่งผลให้ชิ้นงานขาดหรือบางจุดไม่สมบูรณ์
3. การฉีดพลาสติกเข้าสู่แม่พิมพ์ – หัวใจของกระบวนการ
เมื่อพลาสติกละลายพร้อมแล้ว สกรูฉีดจะดันพลาสติกเข้าไปในโพรงแม่พิมพ์ด้วยแรงดันสูง ขั้นตอนนี้เรียกว่า Injection หรือ การฉีดพลาสติก ความเร็วในการฉีดและแรงดันต้องปรับให้เหมาะสมเพื่อให้พลาสติกไหลไปเต็มทุกมุมของแม่พิมพ์ การตั้งค่าที่ดีช่วยลดปัญหา เช่น ช่องว่างอากาศ รอยไหม้ หรือการฉีดไม่เต็ม
4. การทำให้เย็นและแข็งตัว – สร้างรูปทรงถาวร
หลังจากพลาสติกไหลเต็มแม่พิมพ์แล้ว กระบวนการต่อไปคือ Cooling หรือการทำให้เย็น เครื่องฉีดพลาสติกจะมีระบบหล่อเย็น (Cooling Channel) เพื่อดึงความร้อนออก ทำให้พลาสติกแข็งตัวในรูปทรงที่ต้องการ ระยะเวลาการทำให้เย็นขึ้นอยู่กับชนิดพลาสติก ความหนาของชิ้นงาน และประสิทธิภาพของระบบหล่อเย็น
5. การเปิดแม่พิมพ์และดันชิ้นงานออก – จุดสิ้นสุดของหนึ่งรอบการผลิต
เมื่อพลาสติกแข็งตัวแล้ว เครื่องจักรจะเปิดแม่พิมพ์ และใช้เข็มดัน (Ejector Pin) หรือแผ่นดัน (Ejector Plate) เพื่อดันชิ้นงานออก ขั้นตอนนี้ต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ชิ้นงานเสียหาย โดยเฉพาะชิ้นงานที่มีรายละเอียดซับซ้อนหรือบางมาก
6. การตรวจสอบคุณภาพ – เก็บงานก่อนส่งต่อ
หลังจากดันชิ้นงานออกมาแล้ว จะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพ เช่น
- ขนาดถูกต้องตามแบบหรือไม่
- พื้นผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยตำหนิ
- สีสม่ำเสมอ
- ไม่มีฟองอากาศหรือรอยไหม้
การตรวจสอบคุณภาพทุกชิ้นหรือสุ่มตรวจตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ ช่วยลดการเสียหายของสินค้าในขั้นตอนต่อไป
7. การเก็บกวาดเศษและการรีไซเคิล – ใช้วัสดุให้คุ้มค่า
งาน ฉีดพลาสติก มักมีเศษวัสดุ เช่น เกท (Gate) หรือ Runner การเก็บเศษเหล่านี้สามารถนำกลับไปบดและผสมกับเม็ดใหม่ (Regrind) เพื่อลดต้นทุน แต่ต้องคำนึงถึงมาตรฐานคุณภาพ หากสินค้าต้องการความแข็งแรงสูงหรือเกี่ยวข้องกับอาหารและการแพทย์ มักไม่ใช้วัสดุรีไซเคิล
8. ปัจจัยที่ทำให้ขั้นตอนการฉีดพลาสติกมีประสิทธิภาพ
- การออกแบบแม่พิมพ์ที่ดี – ช่วยให้การไหลของพลาสติกสม่ำเสมอ
- การควบคุมเครื่องจักรแม่นยำ – อุณหภูมิ แรงดัน เวลา
- การบำรุงรักษาแม่พิมพ์ – ลดปัญหาชิ้นงานเสีย
- ความรู้ของผู้ปฏิบัติงาน – ช่วยแก้ปัญหาหน้างานได้ทันที
กระบวนการ ฉีดพลาสติก แม้ดูเหมือนซับซ้อน แต่เมื่อเข้าใจ ขั้นตอนหลัก ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ การหลอม การฉีดเข้าสู่แม่พิมพ์ การทำให้เย็น การดันออก และการตรวจสอบคุณภาพ จะเห็นว่าทุกจุดมีผลต่อคุณภาพชิ้นงานทั้งหมด ผู้ประกอบการที่รู้ขั้นตอนเหล่านี้จะสามารถวางแผนการผลิตได้ดี ลดต้นทุน ลดของเสีย และส่งมอบสินค้าที่ตรงตามมาตรฐานให้ลูกค้าได้อย่างมั่นใจ
การเรียนรู้พื้นฐานของ ขั้นตอนฉีดพลาสติก ยังช่วยให้การสื่อสารกับโรงงานชัดเจนขึ้น ทำให้ปรับแก้ไขแบบหรือวางแผนการผลิตได้ง่ายกว่าเดิม และเพิ่มโอกาสในการสร้างชิ้นงานคุณภาพสูงที่พร้อมแข่งขันในตลาด
DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD
3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก
ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
email : sukhumlee@gmail.com
Phone : 02-985-1546, 081-844-8224
Fax : 02-984-1538
line : 081.844.8224


