ปัญหาที่มักจะพบในกระบวนการฉีดพลาสติก กระบวนการ ฉีดพลาสติก (Plastic Injection Molding) เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นกระบวนการที่สามารถผลิตชิ้นงานจำนวนมากได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ให้ความแม่นยำสูง และควบคุมคุณภาพได้ดี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระบวนการนี้จะมีความก้าวหน้าเพียงใด ก็ยังคงมีปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ต้นทุนการผลิต และเวลาส่งมอบ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงปัญหาหลัก ๆ ที่พบบ่อยในกระบวนการ ฉีดพลาสติก พร้อมแนวทางในการป้องกันและแก้ไข
- กระบวนการฉีดพลาสติกขึ้นรูป
- การเลือกใช้พลาสติกที่เหมาะสมกับการผลิต
- พลาสติกชีวภาพ ใช้ฉีดขึ้นรูปได้จริงหรือ?
1. ปัญหาการหดตัวของชิ้นงาน (Shrinkage)
การหดตัวของพลาสติกเป็นปัญหาทางเทคนิคที่พบได้ทั่วไป เนื่องจากพลาสติกมีคุณสมบัติในการหดตัวเมื่อเย็นลงหลังจากถูกหลอมและฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ หากไม่พิจารณาเผื่อค่าหดตัวในการออกแบบแม่พิมพ์ อาจทำให้ขนาดของชิ้นงานสุดท้ายคลาดเคลื่อนจากที่กำหนดไว้
แนวทางแก้ไข:
- เลือกใช้วัสดุพลาสติกที่มีค่าหดตัวต่ำ เช่น ABS หรือ PC
- ปรับอุณหภูมิแม่พิมพ์และความดันฉีดให้เหมาะสม
- เพิ่มเวลาในการบีบอัด (holding time) เพื่อให้พลาสติกเติมเต็มได้สมบูรณ์
2. รอยร้าวและรอยแตก (Cracks)
อีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับชิ้นงานอย่างมากคือรอยร้าว ซึ่งอาจเกิดจากแรงตึงภายใน (internal stress) หรือการออกแบบที่ไม่เหมาะสม เช่น มุมที่แหลมเกินไป ความหนาไม่สมดุล
แนวทางแก้ไข:
- ปรับอุณหภูมิในการหลอมให้เหมาะสมกับชนิดของพลาสติก
- ใช้รัศมีโค้ง (fillet radius) แทนมุมแหลมเพื่อลดความเค้น
- ควบคุมความเร็วในการฉีดไม่ให้เร็วเกินไป
3. รอยบุ๋ม (Sink Marks)
รอยบุ๋มมักเกิดขึ้นในชิ้นงานที่มีความหนาไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในบริเวณที่หนามาก พลาสติกที่เย็นตัวไม่เท่ากันจะเกิดแรงดึงภายใน และทำให้เกิดรอยยุบตัว
แนวทางแก้ไข:
- ออกแบบชิ้นงานให้มีความหนาสม่ำเสมอ
- เพิ่มแรงดันในขั้นตอนการอัดซ้ำ (packing pressure)
- ลดอุณหภูมิแม่พิมพ์เพื่อให้ชิ้นงานเย็นตัวเร็วขึ้น

4. เส้นเชื่อม (Weld Lines)
เมื่อกระแสของพลาสติกไหลเข้ามาบรรจบกันจากหลายทิศทาง จะเกิดเส้นเชื่อมที่ผิวชิ้นงาน ซึ่งนอกจากจะทำให้ดูไม่สวยงามแล้ว ยังเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการแตกร้าวอีกด้วย
แนวทางแก้ไข:
- ปรับตำแหน่งทางเข้าพลาสติก (gate location) เพื่อควบคุมทิศทางการไหล
- เพิ่มอุณหภูมิแม่พิมพ์ และความเร็วในการฉีด เพื่อให้พลาสติกไหลรวมตัวกันได้ดี
- ปรับรูปแบบของช่องทางไหลให้เหมาะสมกับรูปทรงชิ้นงาน
5. ฟองอากาศ (Air Traps)
ฟองอากาศที่ติดอยู่ในชิ้นงานส่งผลต่อความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ และอาจทำให้เกิดปัญหาในการใช้งาน เช่น รั่ว หรือแตกง่าย
แนวทางแก้ไข:
- ปรับระบบระบายอากาศของแม่พิมพ์ให้เหมาะสม
- ลดความเร็วในการฉีดเพื่อให้พลาสติกไหลสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบความสะอาดของแม่พิมพ์เป็นประจำ
6. ชิ้นงานติดแม่พิมพ์ (Sticking)
เมื่อพลาสติกเย็นตัวและยึดติดกับผิวของแม่พิมพ์มากเกินไป อาจทำให้ถอดชิ้นงานออกได้ยาก หรือชิ้นงานเสียหาย
แนวทางแก้ไข:
- ใช้สารเคลือบแม่พิมพ์ (mold release agent)
- ออกแบบมุมถอด (draft angle) ให้เหมาะสม
- ปรับแรงดันของกระบวนการดีดชิ้นงานออกให้พอดี
ปัญหาที่มักจะพบในกระบวนการฉีดพลาสติก กระบวนการ ฉีดพลาสติก แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญ และการควบคุมกระบวนการอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น การเข้าใจถึงปัญหาหลัก ๆ เหล่านี้จะช่วยให้สามารถปรับปรุงคุณภาพของชิ้นงานได้ดียิ่งขึ้น ลดของเสีย ลดต้นทุน และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้าน ฉีดพลาสติก ที่พร้อมให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบแม่พิมพ์จนถึงการผลิตชิ้นงานคุณภาพสูง บริษัทของเราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้วยทีมวิศวกรมืออาชีพและเครื่องจักรที่ทันสมัย
DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD
3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก
ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
- Phone : 02-985-1546, 081-844-8224
- Fax : 02-984-1538
- line : 081.844.8224
- email : sukhumlee@gmail.com