วิธีการฉีดพลาสติกในการผลิตจำนวนมาก

วิธีการฉีดพลาสติกในการผลิตจำนวนมาก

วิธีการฉีดพลาสติกในการผลิตจำนวนมาก

วิธีการฉีดพลาสติกในการผลิตจำนวนมาก ในการทำธุรกิจนั้น การผลิตสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกจำนวนมากๆ การฉีดพลาสติกเป็นวิธีการผลิตชิ้นงานพลาสติกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยการฉีดพลาสติกสามารถผลิตชิ้นงานได้หลากหลายรูปแบบ มีความแม่นยำสูงและการฉีดพลาสติกยังสามารถผลิตชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย แล้วการฉีดพลาสติกให้ได้จำนวนมากจะมีวิธีอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

การฉีดพลาสติกในการผลิตสินค้าจำนวนมาก

การฉีดพลาสติกเป็นเทคนิคการผลิตที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกจำนวนมาก กระบวนการนี้ทำงานโดยการหลอมเม็ดพลาสติกแล้วฉีดเข้าสู่แม่พิมพ์ที่มีรูปร่างของชิ้นงานที่ต้องการ

วิธีการฉีดพลาสติกในการผลิตจำนวนมาก

ขั้นตอนในการฉีดพลาสติก

  1. เตรียมเม็ดพลาสติก เม็ดพลาสติกจะถูกใส่ในฮอปเปอร์ ซึ่งเป็นช่องเก็บวัตถุดิบ ความร้อนจะถูกใช้เพื่อหลอมละลายเม็ดพลาสติก
  2. เตรียมแม่พิมพ์ แม่พิมพ์จะถูกประกอบและทำความสะอาด แม่พิมพ์จะประกอบด้วยสองส่วนหลักแผ่นคงที่และแผ่นเคลื่อนที่ โพรงภายในแม่พิมพ์จะกำหนดรูปร่างของชิ้นส่วนพลาสติก
  3. ฉีดพลาสติก พลาสติกเหลวจะถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ด้วยความดันสูง แรงดันนี้จะดันพลาสติกให้เต็มโพรงของแม่พิมพ์
  4. การหล่อเย็น ชิ้นส่วนพลาสติกจะถูกทำให้เย็นลงภายในแม่พิมพ์ ระยะเวลาการหล่อเย็นจะขึ้นอยู่กับขนาดและความหนาของชิ้นส่วน
  5. การนำชิ้นส่วนออก เมื่อชิ้นส่วนพลาสติกเย็นลงแล้ว แม่พิมพ์จะเปิดออก ชิ้นส่วนพลาสติกจะถูกนำออกจากแม่พิมพ์
  6. การตกแต่ง ชิ้นส่วนพลาสติกอาจถูกตกแต่งเพิ่มเติม เช่น การพ่นสี การชุบ การพิมพ์ หรือการประกอบ

องค์ประกอบหลักของระบบฉีดพลาสติก

  • เครื่องฉีดพลาสติก ประกอบด้วยกระบอกฉีดพลาสติก หน่วยขับเคลื่อน และระบบควบคุม
  • แม่พิมพ์ ประกอบด้วยสองส่วนที่ประกอบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างโพรงที่มีรูปร่างของชิ้นงาน
  • ระบบควบคุม ควบคุมอุณหภูมิ แรงดัน และเวลาของกระบวนการฉีดพลาสติก
วิธีการฉีดพลาสติกในการผลิตจำนวนมาก

ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน

  • ชนิดของพลาสติก คุณสมบัติของพลาสติก เช่น อุณหภูมิหลอมละลาย ความหนืด และความแข็งแรง จะส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน
  • การออกแบบแม่พิมพ์ การออกแบบแม่พิมพ์ เช่น ขนาดของโพรง รูปร่างของทางน้ำ และระบบระบายอากาศ จะส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน
  • การตั้งค่าเครื่องจักร การตั้งค่าอุณหภูมิ แรงดัน และเวลาของกระบวนการฉีดพลาสติก จะส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน

ข้อดีของการฉีดพลาสติก

  • สามารถผลิตชิ้นงานได้รวดเร็ว การฉีดพลาสติกสามารถผลิตชิ้นงานได้รวดเร็วมาก เหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมาก
  • มีความแม่นยำสูง ชิ้นงานที่ผลิตด้วยการฉีดพลาสติกมีความแม่นยำสูง
  • สามารถผลิตชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อน ในขั้นตอนการฉีดพลาสติกสามารถผลิตชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อนได้
  • มีต้นทุนการผลิตต่ำ การฉีดพลาสติกมีต้นทุนการผลิตต่ำ เหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมาก
วิธีการฉีดพลาสติกในการผลิตจำนวนมาก

ข้อเสียของการฉีดพลาสติก

  • มีต้นทุนการลงทุนสูง เครื่องฉีดพลาสติกมีราคาแพง
  • ต้องการพื้นที่ เครื่องฉีดพลาสติกต้องการพื้นที่มาก
  • ไม่เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นงานจำนวนน้อย การฉีดพลาสติกไม่เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นงานจำนวนน้อย

ตัวอย่างการใช้งานฉีดพลาสติก

  • ชิ้นส่วนยานยนต์
  • ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
  • ของเล่น
  • อุปกรณ์ครัวเรือน
  • บรรจุภัณฑ์

กระบวนการฉีดพลาสติกเป็นเทคนิคการผลิตที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกจำนวนมาก เทคนิคนี้มีข้อดีคือสามารถผลิตชิ้นงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และมีต้นทุนต่ำ

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการที่ใช้ในการผลิตชิ้นงานพลาสติกอย่างแพร่หลาย โดยใช้เครื่องฉีดพลาสติกที่สามารถขึ้นรูปพลาสติกให้เป็นรูปร่างที่ต้องการได้ การเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่เหมาะสมสำหรับงานฉีดพลาสติก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างถูกต้อง เนื่องจากวัสดุที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาในกระบวนการผลิตได้ค่ะ

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก (2)

การเลือกวัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ เทอร์โมพลาสติก และ เทอร์โมเซตติ้ง

เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)

เทอร์โมพลาสติก เป็นพลาสติกที่สามารถหลอมเหลวได้เมื่อได้รับความร้อน และแข็งตัวกลับคืนเมื่อเย็นตัวลง โครงสร้างโมเลกุลของเทอร์โมพลาสติกเป็นสายโซ่ยาวที่เรียงตัวกัน ซึ่งสามารถเคลื่อนที่และเรียงตัวใหม่ได้เมื่อได้รับความร้อน เทอร์โมพลาสติกจึงสามารถฉีดพลาสติกได้ง่ายและมีความหลากหลายของคุณสมบัติ เช่น ความแข็งแรง ความแข็ง ความเหนียว ทนต่อสารเคมี ทนต่อความร้อน และรีไซเคิลได้

วัสดุเทอร์โมพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก

  • พอลิเอทิลีน (Polyethylene) เป็นพลาสติกที่ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อสารเคมี และรีไซเคิลได้ นิยมนำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ภาชนะ ท่อ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • พอลิโพรพิลีน (Polypropylene) เป็นพลาสติกที่ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อสารเคมี และทนต่อความร้อน นิยมนำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ภาชนะ ชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อผ้า
  • พอลิสไตรีน (Polystyrene) เป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อแรงกระแทก และขึ้นรูปได้ง่าย นิยมนำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ภาชนะ ของเล่น เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • อะคริลิก (Acrylic) เป็นพลาสติกที่มีความโปร่งใส ทนต่อแรงกระแทก และทนต่อสารเคมี นิยมนำมาใช้ผลิตแผ่นใส กรอบรูป ป้ายโฆษณา และอุปกรณ์ตกแต่ง
  • โพลิคาร์บอเนต (Polycarbonate) เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกสูง ทนต่อสารเคมี และทนต่อความร้อน นิยมนำมาใช้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กีฬา แว่นตา และหมวกนิรภัย
โรงงานฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติก รับฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติกจำนวนน้อย

เทอร์โมเซตติ้ง (Thermosetting)

เทอร์โมเซตติ้งเป็นพลาสติกที่ไม่สามารถหลอมเหลวได้เมื่อได้รับความร้อนอีกครั้ง โครงสร้างโมเลกุลของเทอร์โมเซตติ้งเป็นร่างแหที่แข็งแรงและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ เทอร์โมเซตติ้งจึงมีความแข็งแรง ทนทาน และทนต่อความร้อนสูง แต่ไม่สามารถรีไซเคิลได้

วัสดุเทอร์โมเซตติ้งที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก

  • โพลีเอสเตอร์ (Polyester) มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อความร้อน ทนต่อสารเคมี นิยมนำมาใช้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์กีฬา
  • เอบีเอส (ABS) มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อความร้อน ทนต่อสารเคมี นิยมนำมาใช้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า ของเล่น บรรจุภัณฑ์
  • พีวีซี (PVC) มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อความร้อน ทนต่อสารเคมี นิยมนำมาใช้ผลิตท่อ รางน้ำ อุปกรณ์ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์
  • อีพอกซี (Epoxy) มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อความร้อน ทนต่อสารเคมี ทนทานต่อการกัดกร่อน นิยมนำมาใช้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนเครื่องบิน
วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก

การเลือกพลาสติกที่เหมาะสมสำหรับงานฉีดพลาสติก

  • คุณสมบัติที่ต้องการของชิ้นงาน เช่น ความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อความร้อน ทนต่อสารเคมี โปร่งใส เป็นต้น
  • ลักษณะการใช้งานของชิ้นงาน เช่น ใช้งานภายในอาคารหรือภายนอกอาคาร ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำ เป็นต้น
  • งบประมาณ วัสดุพลาสติกแต่ละชนิดมีราคาแตกต่างกัน

วัสดุพลาสติกมีคุณสมบัติและความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และเหมาะสำหรับใช้ในงานฉีดพลาสติก วัสดุพลาสติกที่เหมาะสำหรับงานฉีดพลาสติกมีหลายชนิด เช่น อะคริลิก, พอลีเทอร์เพน, พอลีไพร์, โพลิคาร์บอเนต, อีพ็อกซี ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และเหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ผู้ผลิตควรพิจารณาคุณสมบัติของวัสดุที่เหมาะสมกับงานและสภาพแวดล้อมที่ต้องการ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

วิธีเลือกวัสดุฉีดพลาสติกให้มีคุณภาพ

วิธีเลือกวัสดุฉีดพลาสติกให้มีคุณภาพ

วิธีเลือกวัสดุฉีดพลาสติกให้มีคุณภาพ

วิธีเลือกวัสดุฉีดพลาสติกให้มีคุณภาพ การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการที่ใช้ในการผลิตวัสดุพลาสติกที่มีความหลากหลาย โดยเครื่องฉีดพลาสติกสามารถขึ้นรูปพลาสติกได้อย่างรวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ วัสดุพลาสติกที่ใช้ในงานฉีดพลาสติกจะต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ดังนั้นคุณสมบัติของวัสดุฉีดพลาสติกที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญวัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

ขั้นตอนการฉีดพลาสติกหลายรูปแบบ

คุณสมบัติของวัสดุฉีดพลาสติก

  • ความหนาแน่น (Density)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความหนาแน่นที่เหมาะสม เนื่องจากความหนาแน่นของวัสดุพลาสติกจะมีผลต่อคุณภาพและความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่มีความหนาแน่นที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและมีการใช้งานที่ยืดหยุ่นได้

  • ความแข็งแรง (Strength)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับการใช้งานต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนที่ต้องรับแรงกระแทกหรือแรงกด ความแข็งแรงของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีการใช้งานที่ปลอดภัยและทนทานต่อการสึกหรอ

  • ความยืดหยุ่น (Flexibility)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถโค้งงอหรือยืดหยุ่นได้ตามต้องการ ความยืดหยุ่นของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายในการใช้งาน และสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ตามความต้องการของผู้ใช้

  • ความต้านทานต่อสารเคมี (Chemical Resistance)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความต้านทานต่อสารเคมี โดยเฉพาะสารเคมีที่อาจมีอยู่ในสภาวะแข็งหรือของเหลวที่อาจมีผลกระทบต่อวัสดุพลาสติกได้ การเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่มีความต้านทานต่อสารเคมีจะช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่เสียหายจากสารเคมี

Deemark รับฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติกจำนวนน้อย โรงงานฉีดพลาสติก
  • ความทนทานต่ออุณหภูมิ (Temperature Resistance)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความทนทานต่ออุณหภูมิ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ ความทนทานต่ออุณหภูมิของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ในสภาวะอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้

  • ความต้านทานต่อ UV (UV Resistance)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความต้านทานต่อรังสี UV เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของวัสดุพลาสติกที่เกิดจากรังสีแสงแดด ความต้านทานต่อรังสี UV ของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีรังสีแสงแดดมาก

  • ความโปร่งแสง (Transparency)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความโปร่งแสงที่เหมาะสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ในการป้องกันแสงแดดหรือใช้งานที่ต้องการความโปร่งแสง ความโปร่งแสงของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพในการใช้งานที่ต้องการความโปร่งแสงและความเข้าใจได้ง่าย

  • ความทนทานต่อการเปียกน้ำ (Water Resistance)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความทนทานต่อการเปียกน้ำ เพื่อป้องกันการเสียหายของวัสดุพลาสติกที่เกิดจากการสัมผัสกับน้ำ ความทนทานต่อการเปียกน้ำของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความทนทานและคงทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น

การออกแบบแม่พิมพ์สำคัญต่อชิ้นงานฉีดพลาสติกอย่างไร
  • ความสว่าง (Brightness)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความสว่างที่เหมาะสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพในการใช้งานที่ต้องการความสว่าง ความสว่างของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความสว่างและความเข้าใจได้ง่าย

  • ความทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน (Scratch Resistance)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน เพื่อป้องกันการเสียหายของวัสดุพลาสติกที่เกิดจากการใช้งานและการถูกขีดข่วน ความทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วนของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความทนทานและคงทนต่อการใช้งาน

  • ความสว่างกระจ่างใส (Translucency)

วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกจะต้องมีความสว่างกระจ่างใสที่เหมาะสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพในการใช้งานที่ต้องการความสว่างกระจ่างใส ความสว่างกระจ่างใสของวัสดุพลาสติกจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความโปร่งใสและความเข้าใจได้ง่าย

การเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติกเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพและความยืดหยุ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ วัสดุพลาสติกที่เหมาะสมควรมีคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยความหนาแน่น, ความแข็งแรง, ความยืดหยุ่น, ความต้านทานต่อสารเคมี, ความทนทานต่ออุณหภูมิ, ความต้านทานต่อรังสี UV, ความทนทานต่อการเปียกน้ำ, ความสว่าง, ความทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน, และความสว่างกระจ่างใส เป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่เหมาะกับงานฉีดพลาสติก

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

เทคนิคฉีดพลาสติกลดรอยต่อและรอยแตก

เทคนิคฉีดพลาสติกลดรอยต่อและรอยแตก

เทคนิคฉีดพลาสติกลดรอยต่อและรอยแตก

เทคนิคฉีดพลาสติกลดรอยต่อและรอยแตก ในการฉีดพลาสติกขึ้นรูปชิ้นงานนั้น รอยต่อและรอยแตกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในงานฉีดพลาสติก รอยต่อมักเกิดจากพลาสติกเหลวที่ไหลเข้าแม่พิมพ์ไม่ประสานกัน ทำให้เกิดการแยกตัวเป็นชั้นๆ ในขณะที่รอยแตกมักเกิดจากความเค้นที่สะสมภายในชิ้นงานพลาสติกมากเกินไปจนไม่สามารถทนรับแรงได้นั่นเองค่ะ แล้วเราจะมีเทคนิคในการฉีดพลาสติกไม่ให้เกิดรอยต่อและรอบแตกได้อย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

รับฉีดพลาสติกกับdeemark ฉีดพลาสติก พลาสติก ฉีดพลาสติกจำนวนน้อย

ปัญหาการฉีดพลาสติกเกิดรอบต่อและรอยแตก

รอยต่อและรอยแตกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในการฉีดพลาสติก รอยต่อเกิดขึ้นบริเวณที่ชิ้นงานพลาสติกสองชิ้นมาเชื่อมต่อกัน ส่วนรอยแตกอาจเกิดขึ้นบริเวณใดก็ได้ของชิ้นงานพลาสติก สาเหตุของการเกิดรอยต่อและรอยแตกอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การออกแบบแม่พิมพ์ที่ไม่เหมาะสม อุณหภูมิและความดันในการฉีดพลาสติกที่ไม่ถูกวิธี หรือการเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่ไม่เหมาะสมนะคะ

วิธีแก้ไขการเกิดรอยต่อและรอยแตกในการฉีดพาสติก

การออกแบบแม่พิมพ์

การออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ดี จะช่วยลดความเค้นที่สะสมภายในชิ้นงานพลาสติก และช่วยให้พลาสติกเหลวที่ไหลเข้าแม่พิมพ์ประสานตัวกันได้ดีขึ้น เทคนิคการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ช่วยลดการเกิดรอยต่อและรอยแตก มีดังนี้

  • เลือกใช้วัสดุแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่เหมาะสม ในการทำแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกเราต้องเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตแม่พิมพ์ ให้เหมาะสมกับชนิดของพลาสติกที่ใช้ผลิตชิ้นงานพลาสติกด้วย ซึ่งวัสดุผลิตแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ดีควรมีความแข็งแรงทนทานและนำความร้อนได้ดี
  • ออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกให้เรียบง่าย ควรออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ปราศจากรอยต่อ เพราะรอยต่อบนแม่พิมพ์จะทำให้พลาสติกเหลวที่ไหลเข้าแม่พิมพ์ไม่สามารถประสานตัวกันได้ดีขึ้น
  • ออกแบบแม่พิมพ์ให้มีช่องระบายอากาศเพียงพอ ช่องระบายอากาศจะช่วยระบายความร้อนและความดันภายในแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ทำให้พลาสติกเหลวที่ไหลเข้าแม่พิมพ์สามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ออกแบบแม่พิมพ์ให้มีระบบหล่อเย็น ระบบหล่อเย็นจะช่วยระบายความร้อนออกจากชิ้นงานพลาสติก ทำให้ชิ้นงานพลาสติกมีโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทานต่อการแตกหักนั่นเองค่ะ
รับฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติกจำนวนน้อย โรงงานฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติก

การปรับแต่งเวลาฉีดพลาสติก

การปรับแต่งเวลาฉีดพลาสติกให้เหมาะสม จะช่วยให้พลาสติกเหลวที่ไหลเข้าแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก สามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอและประสานตัวกันได้ดีขึ้น เทคนิคการปรับแต่งเวลาฉีดพลาสติกที่ช่วยลดการเกิดรอยต่อและรอยแตก ดังนี้

  • เพิ่มเวลาฉีดพลาสติกจังหวะแรก เพื่อให้พลาสติกเหลวที่ไหลเข้าแม่พิมพ์มีเวลาเพียงพอในการกระจายตัว
  • ลดความเร็วในการฉีดพลาสติกจังหวะแรก เพื่อลดการไหลแบบปั่นป่วนของพลาสติกเหลว
  • เพิ่มความดันในการฉีดพลาสติก เพื่อให้พลาสติกเหลวสามารถไหลเข้าแม่พิมพ์ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง

การควบคุมอุณหภูมิและความดัน

อุณหภูมิและความดันในการฉีดพลาสติก เป็นปัจจัยสำคัญในการลดการเกิดรอยต่อและรอยแตก อุณหภูมิของแม่พิมพ์และพลาสติกเหลวควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม ความดันในการฉีดพลาสติกควรเพียงพอที่จะดันพลาสติกเหลวเข้าไปในแม่พิมพ์ได้อย่างทั่วถึง โดยไม่ทำให้เกิดการไหลแบบปั่นป่วนที่อาจทำให้เกิดรอยพ่นและรอยแตกได้ค่ะ

การเลือกใช้วัสดุพลาสติก

การเลือกวัสดุพลาสติกที่เหมาะสมกับชิ้นงานที่ต้องการผลิตช่วยลดการเกิดรอยต่อและรอยแตกได้ วัสดุพลาสติกบางชนิด เช่น โพลีโพรไพลีน (PP) และโพลีเอทิลีน (PE) มีคุณสมบัติทนทานต่อการแตกหัก จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแตกได้ค่ะ

การฉีดพลาสติกแบบ 3D

การตรวจสอบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก

การตรวจสอบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จะช่วยให้ชิ้นงานพลาสติกที่ผลิตออกมามีคุณภาพดี เทคนิคการตรวจสอบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ช่วยลดการเกิดรอยต่อและรอยแตก มีดังนี้

  • ตรวจสอบแม่พิมพ์ว่ามีความเรียบร้อยและไม่มีความผิดปกติ เช่น รอยขีด รอยแตก หรือคราบสกปรก ที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงานพลาสติก
  • ตรวจสอบแม่พิมพ์ว่าไม่มีการสึกหรอหรือเสียหายที่อาจทำให้พลาสติกเหลวไหลผ่านได้ไม่ดี

การใช้เทคโนโลยีการฉีดพลาสติกอื่นๆ

  • การใช้สารเติมแต่งในพลาสติกเหลว เช่น สารต้านการเกาะติด (release agent) สารลดแรงตึงผิว (surfactant) และสารเติมแต่งอื่นๆ ที่ช่วยลดการยึดเกาะระหว่างพลาสติกเหลวกับแม่พิมพ์
  • การใช้สารเพิ่มประสิทธิภาพ (additive) การใช้ความร้อนเสริม (post-curing) และการใช้เทคนิคฉีดพลาสติกแบบพิเศษ เป็นต้น
  • เทคนิคการฉีดพลาสติกแบบร้อน (hot runner) เทคนิคนี้ใช้แม่พิมพ์ที่มีระบบหล่อเย็นภายใน ทำให้พลาสติกเหลวที่ไหลเข้าแม่พิมพ์มีอุณหภูมิที่สม่ำเสมอและช่วยลดการเกิดรอยต่อ
  • เทคนิคการฉีดพลาสติกแบบต่อเนื่อง (continuous injection molding) เทคนิคนี้ใช้แม่พิมพ์ที่ผลิตชิ้นงานพลาสติกได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชิ้นงานพลาสติกมีโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทานต่อการแตกหัก

การฉีดพลาสติกเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการผลิตชิ้นงานพลาสติกที่มีคุณภาพสูง แต่อาจเกิดปัญหารอยต่อหรือรอยแตกขึ้น โดยการเลือกวัสดุพลาสติกที่เหมาะสม การปรับแต่งกระบวนการฉีดพลาสติก การใช้เทคโนโลยีการฉีดพลาสติกที่ล้ำสมัย และการตรวจสอบและการบำรุงรักษา เป็นเทคนิคที่สามารถช่วยลดการเกิดรอยต่อและรอยแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

การออกแบบแม่พิมพ์สำคัญต่อชิ้นงานฉีดพลาสติกอย่างไร

การออกแบบแม่พิมพ์สำคัญต่อชิ้นงานฉีดพลาสติกอย่างไร

การออกแบบแม่พิมพ์สำคัญต่อชิ้นงานฉีดพลาสติกอย่างไร

การออกแบบแม่พิมพ์สำคัญต่อชิ้นงานฉีดพลาสติกอย่างไร ในการฉีดพลาสติกขึ้นรูปหลายๆ คนอาจจะให้ความสำคัญกับเครื่องฉีดพลาสติก แต่แม่พิมพ์ที่ใช้ในการฉีดพลาสติกนั้นเป็นตัวกำหนดคุณภาพของชิ้นงานฉีดพลาสติก ซึ่งการออกแบบแม่พิมพ์ให้เหมาะสมและมีคุณภาพจึงสำคัญอย่างมาก แล้วการออกแบบแม่พิมพ์จะสำคัญต่อชิ้นงานฉีดพลาสติกอย่างไร แอดมินมีคำตอบค่ะ

การออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกมีความสำคัญต่อการฉีดพลาสติกเป็นอย่างมาก มีผลต่อคุณภาพของชิ้นงานพลาสติกที่ผลิตออกมา ประสิทธิภาพในการผลิต และต้นทุนการผลิต โดยการออกแบบแม่พิมพ์ที่ดีจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • รูปทรงของชิ้นงานพลาสติก การออกแบบแม่พิมพ์ต้องคำนึงถึงรูปทรงของชิ้นงานฉีดพลาสติกที่ต้องการผลิต จะต้องสามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกออกมาได้ตามรูปทรงและขนาดที่ต้องการ โดยคำนึงถึงความซับซ้อนของรูปทรงด้วย
  • วัสดุที่ใช้ผลิตชิ้นงานพลาสติก วัสดุที่ใช้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกมีหลากหลายประเภท เช่น พลาสติก ABS, พลาสติก PC, พลาสติก PP เป็นต้น การออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ผลิตชิ้นงานด้วย เช่น จุดหลอมเหลว อัตราการไหลของพลาสติก เป็นต้น
  • คุณสมบัติของชิ้นงานพลาสติกที่ต้องการ คุณสมบัติของชิ้นงานฉีดพลาสติกที่ต้องการ เช่น ความแข็งแรง ความเหนียว ทนทานต่อความร้อน เป็นต้น การออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกต้องคำนึงถึงคุณสมบัติเหล่านี้ด้วย เพื่อให้ได้ชิ้นงานพลาสติกที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการ

การออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนหลักๆ คือ

  • ขั้นตอนการออกแบบเบื้องต้น ขั้นตอนนี้เป็นการร่างแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกคร่าวๆ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เช่น รูปทรงของชิ้นงาน วัสดุที่ใช้ผลิตชิ้นงาน คุณสมบัติของชิ้นงานที่ต้องการ เป็นต้น
  • ขั้นตอนการออกแบบรายละเอียด ขั้นตอนนี้เป็นการร่างแบบแม่พิมพ์ฉีดพาสติกโดยละเอียด ระบุรายละเอียดต่างๆ เช่น ขนาดของแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ตำแหน่งของคาวิตี้ (Cavity) ตำแหน่งของทางน้ำพลาสติกวิ่ง (Runner และ Gate) ระบบระบายอากาศ เป็นต้น
การออกแบบแม่พิมพ์สำคัญต่อชิ้นงานฉีดพลาสติกอย่างไร

ตัวอย่างการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ดี

  • ออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกให้สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้อย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงขนาดของแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ตำแหน่งของคาวิตี้ และระบบหล่อเย็น
  • ออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกให้สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงระบบระบายอากาศ และการออกแบบทางน้ำพลาสติกวิ่ง
  • ออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกให้สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ โดยคำนึงถึงการเลือกวัสดุที่เหมาะสม และการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกให้สามารถผลิตชิ้นงานได้ตามรูปทรงและขนาดที่ต้องการ

อย่างไรก็ตาม ในการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ดีจะช่วยทำให้ชิ้นงานฉีดพลาสติกที่ผลิตออกมามีคุณภาพดี ตรงตามความต้องการ มีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ มีความแข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ดียังช่วยทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยให้ผลิตชิ้นงานได้รวดเร็วขึ้น ลดต้นทุนการผลิต และลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผลิตได้อีกด้วย ที่สำคัญการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกเป็นงานที่มีความซับซ้อน และต้องใช้ทักษะและความรู้เฉพาะทาง ดังนั้น จึงควรให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกเป็นผู้ดำเนินการ

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

ฉีดพลาสติกต้องรู้! วิธีการตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำ

ฉีดพลาสติกต้องรู้! วิธีการตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำ

ฉีดพลาสติกต้องรู้! วิธีการตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำ

ฉีดพลาสติกต้องรู้! วิธีการตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำ การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อสร้างชิ้นส่วนพลาสติกที่หลากหลาย การฉีดพลาสติกจะใช้เครื่องฉีดพลาสติกที่มีแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก (mold) เพื่อรับรูปร่างของชิ้นงาน แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกจะถูกฉีดด้วยน้ำยาละลายพลาสติกที่มีแรงดันสูงเข้าไป โดยปกติแล้วแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกจะถูกตั้งค่าเพื่อที่จะให้ได้แรงดันที่เหมาะสมในกระบวนการฉีดพลาสติก อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี อาจจะต้องมีการปรับค่าแรงดันลงเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเช่น เกิดแรงดันสูงเกินไปทำให้เกิดรอยแตกหักในชิ้นงาน หรือการฉีดพลาสติกไม่สม่ำเสมอ

การตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำคืออะไร

การตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกแรงดันต่ำ (Low Pressure Molding) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการป้องกันแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกจากแรงดันที่เกิดขึ้นในกระบวนการฉีดพลาสติก โดยการป้องกันแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก และช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น

การตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำ

ขั้นตอนการตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำ

  1. ตรวจสอบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก

ตรวจสอบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ว่ามีรอยแตกหักหรือไม่ หากพบว่าแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกมีรอยแตกหัก ให้ทำการซ่อมแซมแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายในชิ้นงาน

  1. ตรวจสอบการปรับค่าแรงดัน

ตรวจสอบและปรับค่าแรงดันให้ถูกต้องตามค่าที่กำหนด โดยใช้เครื่องวัดแรงดัน (pressure gauge) ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อให้ได้แรงดันที่เหมาะสมในกระบวนการฉีดพลาสติก ซึ่งค่าแรงดันฉีดพลาสติกที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 20-30 MPa หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติกที่ใช้และขนาดของชิ้นงาน หากแรงดันฉีดพลาสติกต่ำเกินไป พลาสติกเหลวก็จะไม่สามารถไหลเข้าสู่แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกได้จนเต็ม

  1. ตรวจสอบอุณหภูมิพลาสติก

อุณหภูมิพลาสติกที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 200-250 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิพลาสติกต่ำเกินไป พลาสติกเหลวก็จะมีความหนืดสูง ส่งผลให้การไหลของพลาสติกยากลำบาก

  1. ตรวจสอบความเร็วฉีดพลาสติก

ความเร็วฉีดพลาสติกที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 10-20 มม./วินาที หากความเร็วฉีดพลาสติกต่ำเกินไป พลาสติกเหลวก็จะไม่สามารถไหลเข้าสู่แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกได้จนเต็ม

สาเหตุที่ทำให้แถบรัดเครื่องฉีดพลาสติกแตก
  1. ตรวจสอบแรงดันโฮลด์

แรงดันโฮลด์ที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 10-20 MPa หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติกที่ใช้และขนาดของชิ้นงาน แรงดันโฮลด์จะช่วยรักษารูปร่างของชิ้นงานไม่ให้เกิดการเสียรูปหลังจากการฉีดพลาสติก

  1. ตรวจสอบการไหลของพลาสติก

หากตรวจสอบแล้วพบว่าแรงดันฉีดพลาสติก อุณหภูมิพลาสติก ความเร็วฉีดพลาสติก และแรงดันโฮลด์อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว แต่ชิ้นงานก็ยังไม่สามารถฉีดพลาสติกเต็มได้ ปัญหาอาจเกิดจากปัญหาการไหลของพลาสติก ในกรณีนี้อาจต้องตรวจสอบสาเหตุอื่นๆ เช่น ปัญหาที่ทางน้ำพลาสติก ปัญหาที่หัวฉีดพลาสติก หรือปัญหาที่แม่พิมพ์ฉีดพลาสติก

วิธีการตั้งค่าการป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำ

  • แรงดันฉีด: 25 MPa
  • อุณหภูมิพลาสติก: 220 องศาเซลเซียส
  • ความเร็วฉีด: 15 มม./วินาที
  • แรงดันโฮลด์: 15 MPa

หากตั้งค่าตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ชิ้นงานควรสามารถฉีดพลาสติกเต็มได้โดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของฉีดพลาสติกที่ใช้และขนาดของชิ้นงาน ดังนั้นจึงควรทำการทดลองเพื่อให้ได้ค่าที่เหมาะสมที่สุด

นอกจากการปฏิบัติตามวิธีการตั้งค่าข้างต้นแล้ว ยังสามารถป้องกันแม่พิมพ์แรงดันต่ำได้โดยใช้อุปกรณ์เสริม เช่น อุปกรณ์ช่วยฉีดพลาสติก (Plastic Injection Aid) หรืออุปกรณ์วัดแรงดันฉีดพลาสติก (Injection Pressure Gauge) อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดพลาสติกและช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

การฉีดพลาสติกช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างไร

การฉีดพลาสติกช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างไร

การฉีดพลาสติกช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างไร

การฉีดพลาสติกช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างไร การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากการฉีดพลาสติกมีความยืดหยุ่นในการผลิตชิ้นงานที่มีรูปทรงและขนาดหลากหลาย ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และการฉีดพลาสติกยังสามารถผลิตชิ้นส่วนได้ในปริมาณมาก การฉีดพลาสติกช่วยลดต้นทุนการผลิตอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

แก้ปัญหาฉีดพลาสติกสีไม่สม่ำเสมอ
  1. ลดการใช้วัตถุดิบพลาสติก

วัตถุดิบพลาสติกเป็นปัจจัยที่มีต้นทุนสูงที่สุดในการฉีดพลาสติก ดังนั้น ผู้ประกอบการควรเลือกใช้วัตถุดิบที่ใช้ในการฉีดพลาสติกที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนัก และความยืดหยุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบพลาสติกได้โดยการลดปริมาณของเสียพลาสติกที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต โดยอาจใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การลดปริมาณพลาสติกที่ใช้ต่อชิ้นงาน การปรับปรุงกระบวนการฉีดพลาสติกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รับฉีดพลาสติกกับdeemark ฉีดพลาสติก พลาสติก ฉีดพลาสติกจำนวนน้อย
  1. ลดการใช้พลังงาน

การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานค่อนข้างมาก ดังนั้น ผู้ประกอบการควรเลือกใช้เครื่องฉีดพลาสติกที่มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น กำลังการผลิต ความเร็วในการฉีดพลาสติก และต้นทุนการบำรุงรักษา เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถลดการใช้พลังงานได้โดยการปรับปรุงกระบวนการฉีดพลาสติกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การลดเวลาเครื่องฉีดพลาสติกว่างเปล่า การปรับปรุงการบำรุงรักษาเครื่องฉีดพลาสติก เป็นต้น

  1. ลดการใช้แรงงาน

แรงงานเป็นปัจจัยสำคัญในการฉีดพลาสติก ผู้ประกอบการควรจัดให้มีการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถลดต้นทุนแรงงานได้โดยการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การลดจำนวนพนักงานที่ไม่จำเป็น การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ง่ายขึ้น

Deemark รับฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติกจำนวนน้อย โรงงานฉีดพลาสติก
  1. ลดต้นทุนอื่นๆ

นอกจากต้นทุนจากวัตถุดิบพลาสติก พลังงาน และแรงงานแล้ว ผู้ประกอบการยังต้องพิจารณาต้นทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฉีดพลาสติก เช่น ต้นทุนแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนการซ่อมบำรุง เป็นต้น

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

วิธีตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกอย่างไร?

วิธีตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกอย่างไร?

วิธีตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกอย่างไร?

วิธีตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกอย่างไร? การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการที่สำคัญในอุตสาหกรรมผลิต ซึ่งการตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากอุณหภูมิที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกมีคุณภาพและความแข็งแรง วันนี้แอดมินจะมีวิธีการตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกมาแนะนำค่ะ

  1. กำหนดอุณหภูมิเริ่มต้น

การกำหนดอุณหภูมิเริ่มต้นสำหรับพลาสติกหลอมเหลวและแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก โดยอุณหภูมิเริ่มต้นที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ชนิดของพลาสติกที่ใช้ รูปร่างและขนาดของชิ้นงานฉีดพลาสติก คุณสมบัติที่ต้องการของชิ้นงานฉีดพลาสติก เป็นต้น โดยทั่วไปแล้ว อุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลวจะอยู่ที่ประมาณ 180-270 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกจะอยู่ที่ประมาณ 20-100 องศาเซลเซียส

วิธีตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกอย่างไร
  1. กำหนดอุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลว

อุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลวที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติกที่ใช้ โดยทั่วไปแล้ว พลาสติกที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงจะมีจุดหลอมเหลวที่สูงกว่าพลาสติกที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำ ดังนั้น พลาสติกที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงจึงต้องการอุณหภูมิที่สูงขึ้นเพื่อให้หลอมเหลว โดยรูปร่างและขนาดของชิ้นงานฉีดพลาสติกก็ส่งผลต่ออุณหภูมิของพลาสติกหลอมเหลวที่เหมาะสม เช่นกัน ชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีรูปร่างซับซ้อน หรือมีขนาดใหญ่จะต้องการอุณหภูมิที่สูงขึ้นเพื่อให้พลาสติกไหลได้อย่างทั่วถึง

  1. กำหนดอุณหภูมิแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก

อุณหภูมิแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติกที่ใช้ โดยทั่วไปแล้ว พลาสติกที่มีจุดหลอมเหลวสูงจะมีอัตราการเย็นตัวที่ช้าลง ดังนั้น พลาสติกที่มีจุดหลอมเหลวสูง จึงต้องการอุณหภูมิแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ต่ำกว่าพลาสติกที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ

นอกจากนี้ รูปร่างและขนาดของชิ้นงานฉีดพลาสติกก็ส่งผลต่ออุณหภูมิแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่เหมาะสมเช่นกัน ชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีรูปร่างซับซ้อนหรือมีขนาดใหญ่ จะต้องการอุณหภูมิแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่สูงกว่า เพื่อให้พลาสติกเย็นตัวลงอย่างสม่ำเสมอ

ความชื้นในเม็ดพลาสติกปัญหาใหญ่ในการฉีดพลาสติก การฉีดพลาสติกให้สมบูรณ์
  1. ทดสอบและปรับค่าอุณหภูมิ

หลังจากกำหนดอุณหภูมิเริ่มต้นแล้ว จำเป็นต้องทำการทดสอบการผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกจริง เพื่อตรวจสอบคุณภาพของชิ้นงานฉีดพลาสติกและปรับค่าอุณหภูมิให้เหมาะสมยิ่งขึ้น หากชิ้นงานฉีดพลาสติกมีรอยตำหนิหรือแตกหัก แสดงว่าอุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลวสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลวให้สูงขึ้นหรือต่ำลงตามลำดับ ซึ่งหากชิ้นงานฉีดพลาสติกมีรอยคราบหรือรอยเปื้อน แสดงว่าอุณหภูมิแม่พิมพ์สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิแม่พิมพ์ให้สูงขึ้นหรือต่ำลงตามลำดับ

  1. บันทึกค่าอุณหภูมิ

หลังจากปรับค่าอุณหภูมิจนได้ชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีคุณภาพตามต้องการแล้ว จำเป็นต้องบันทึกค่าอุณหภูมิดังกล่าวไว้ เพื่อใช้ในการผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกครั้งต่อไป การบันทึกค่าอุณหภูมิจะช่วยให้สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีคุณภาพสม่ำเสมอได้

วิธีตั้งค่าอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกอย่างไร

เคล็ดลับในการปรับตั้งค่าอุณหภูมิ

  • ควรเริ่มการปรับค่าอุณหภูมิจากอุณหภูมิแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกก่อน จากนั้นจึงปรับค่าอุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลวตามลำดับ
  • ควรปรับค่าอุณหภูมิทีละน้อยแ ละทดสอบการผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกจริงทุกครั้ง
  • ควรบันทึกค่าอุณหภูมิไว้เพื่อใช้ในการผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกครั้งต่อไป

แนะนำการปรับตั้งค่าอุณหภูมิ

  • พลาสติก ABS อุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลว 200-240 องศาเซลเซียส อุณหภูมิแม่พิมพ์ 50-70 องศาเซลเซียส
  • พลาสติก PP อุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลว 180-220 องศาเซลเซียส อุณหภูมิแม่พิมพ์ 20-40 องศาเซลเซียส
  • พลาสติก PET อุณหภูมิพลาสติกหลอมเหลว 250-280 องศาเซลเซียส อุณหภูมิแม่พิมพ์ 50-70 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ ค่าอุณหภูมิที่ระบุเป็นเพียงค่าประมาณเท่านั้น จำเป็นต้องทำการทดสอบและปรับค่าอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของตนเอง

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

5 เหตุผลที่ต้องควบคุมอุณภูมิในการฉีดพลาสติก

5 เหตุผลที่ต้องควบคุมอุณภูมิในการฉีดพลาสติก

5 เหตุผลที่ต้องควบคุมอุณภูมิในการฉีดพลาสติก

5 เหตุผลที่ต้องควบคุมอุณภูมิในการฉีดพลาสติก การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการที่ใช้ในการผลิตชิ้นงานพลาสติกในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งอุณหภูมิเป็นปัจจัยที่สำคัญของการฉีดพลาสติกในการควบคุมคุณภาพและความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ที่ได้ เนื่องจากอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกมีผลต่อความเรียบเนียนของผิวชิ้นงาน ความแข็งแรง และการยืดหยุ่น ดังนั้น การควบคุมอุณหภูมิในกระบวนการฉีดพลาสติกเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ในการฉีดพลาสติกสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ โดยใช้เครื่องฉีดพลาสติกที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ โดยสามารถปรับตั้งค่าอุณหภูมิได้ตามความเหมาะสมของวัสดุพลาสติกและกระบวนการฉีดพลาสติก เครื่องฉีดพลาสติกที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิ จะช่วยให้สามารถควบคุมอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกได้อย่างแม่นยำ และป้องกันไม่ให้อุณหภูมิเกินกว่าที่จำเป็น ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์

เหตุผลที่ต้องควบคุมอุณภูมิในการฉีดพลาสติก

  1. ป้องกันการลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์

การควบคุมอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง หากอุณหภูมิไม่ถูกควบคุมอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาเช่น การหยุดเครื่องฉีดพลาสติก การลดความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ หรือการเกิดรอยต่อไม่สวยงาม

  1. ป้องกันการเสียหายของเครื่องจักร

การฉีดพลาสติกใช้เครื่องจักรที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิ เช่น เครื่องฉีดพลาสติกที่ใช้ระบบทำความร้อน หากไม่ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดความเสียหายและส่งผลต่อการใช้งานของเครื่องฉีดพลาสติกได้

การฉีดพลาสติกแบบ 3D
  1. ป้องกันการเสียหายของวัสดุ

พลาสติกเป็นวัสดุที่ไวต่อความร้อน หากอุณหภูมิไม่ถูกควบคุมในกระบวนการฉีดพลาสติก อาจทำให้เกิดการละลาย การสูญเสียความแข็งแรง หรือเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของวัสดุได้

  1. ลดความเสี่ยงในการเกิดตำหนิในการผลิต

การควบคุมอุณหภูมิในการฉีดพลาสติกช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดตำหนิในผลิตภัณฑ์ อุณหภูมิที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดรอยต่อที่ไม่สวยงาม รอยแตกร้าว หรือรอยแตก

  1. ประหยัดเวลาและทรัพยากร

การควบคุมอุณหภูมิในกระบวนการฉีดพลาสติกช่วยลดเวลาในการผลิต โดยจะไม่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากอุณหภูมิที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดทรัพยากรเช่น พลังงานและวัสดุที่ใช้ในกระบวนการผลิต

การควบคุมอุณหภูมิในการฉีดพลาสติก เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และป้องกันการเสียหายของเครื่องฉีดพลาสติกและวัสดุ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดตำหนิในการผลิต และประหยัดเวลาและทรัพยากรในกระบวนการผลิตด้วยค่ะ

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538

ฉีดพลาสติกเกิดรอยไหม้เหลืองมีสาเหตุจากอะไร

ฉีดพลาสติกเกิดรอยไหม้เหลืองมีสาเหตุจากอะไร?

ฉีดพลาสติกเกิดรอยไหม้เหลืองมีสาเหตุจากอะไร?

ฉีดพลาสติกเกิดรอยไหม้เหลืองมีสาเหตุจากอะไร? การฉีดพลาสติกเป็นกระบวนการที่ใช้ในการผลิตชิ้นงานพลาสติก แต่บางครั้งอาจเกิดปัญหาที่ชิ้นงานฉีดพลาสติกจะมีรอยไหม้เหลือง (Burn mark) ปรากฏขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีรูของชิ้นงาน รอยไหม้เหลืองนี้อาจเป็นปัญหาที่ทำให้ชิ้นงานฉีดพลาสติกดูไม่สวยงาม และมีความผิดปกติ ถ้าคุณกำลังพบปัญหาดังกล่าว คุณอาจกังวลว่าสาเหตุของรอยไหม้เหลืองนี้คืออะไรและวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่างไร

สาเหตุของรอยไหม้เหลืองในชิ้นงานฉีดพลาสติกสามารถมีหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้วเกิดจากความร้อนที่สูงเกินไปในช่วงเวลาการฉีดพลาสติก ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาต่างๆ ดังนี้:

  1. อุณหภูมิของโลหะในแม่พิมพ์สูงเกินไป ในกระบวนการฉีดพลาสติก แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ใช้จะถูกทำจากโลหะ เช่น เหล็กหรืออลูมิเนียม ถ้าอุณหภูมิของแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกสูงเกินไป อาจทำให้พื้นผิวของชิ้นงานฉีดพลาสติกเกิดการร้อนเกินไป ซึ่งสามารถทำให้เกิดรอยไม้เหลืองได้
  2. การระบายความร้อนไม่เพียงพอ เมื่อชิ้นงานฉีดพลาสติกถูกฉีดแล้ว ความร้อนที่เกิดขึ้นจะต้องระบายออกไปให้เพียงพอ ถ้าไม่มีการระบายความร้อนที่เพียงพอ อุณหภูมิในชิ้นงานฉีดพลาสติกอาจเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดรอยไม้เหลือง
  3. เวลาฉีดพลาสติกที่ผิด เวลาฉีดพลาสติกเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน ถ้าเวลาฉีดพลาสติกไม่ถูกต้อง อาจทำให้ชิ้นงานฉีดพลาสติกเกิดรอยไม้เหลืองได้

วิธีแก้ไขปัญหาฉีดพลาสติกเกิดรอยไม้เหลือง (Burn mark)

  1. ปรับอุณหภูมิและความดันในกระบวนการฉีดพลาสติก ควรปรับอุณหภูมิและความดันในกระบวนการฉีดพลาสติกให้เหมาะสม โดยใช้ค่าที่แนะนำจากผู้ผลิตของเครื่องฉีดพลาสติก
  2. ใช้แม่พิมพ์ที่เย็น ถ้าปัญหาเกิดจากอุณหภูมิของแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกสูงเกินไป ควรใช้แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่เย็นลง เพื่อลดการร้อนที่เกิดขึ้นในชิ้นงานฉีดพลาสติก
  3. ปรับแต่งการระบายความร้อน ควรปรับแต่งการระบายความร้อนให้เพียงพอ โดยใช้การออกแบบที่เหมาะสมสำหรับชิ้นงานฉีดพลาสติก
  4. เลือกวัสดุที่เหมาะสม ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับชิ้นงานฉีดพลาสติก เพื่อลดโอกาสในการเกิดรอยไม้เหลือง
  5. ปรับแต่งเวลาฉีดพลาสติก ควรปรับแต่งเวลาฉีดพลาสติกให้ถูกต้อง เพื่อให้ชิ้นงานฉีดพลาสติกได้รับการกระจายของวัสดุที่เหมาะสม
  6. ตรวจสอบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ควรตรวจสอบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกว่ามีความเรียบร้อยและไม่มีความผิดปกติ เช่น รอยขีด รอยแตก หรือคราบสกปรก ที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงานฉีดพลาสติก

การฉีดพลาสติกเกิดรอยไม้เหลือง (Burn mark) ในชิ้นงานฉีดพลาสติกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อุณหภูมิของแม่พิมพ์สูงเกินไป การระบายความร้อนไม่เพียงพอ หรือเวลาฉีดพลาสติกที่ผิด ในการแก้ไขปัญหานี้ คุณสามารถปรับอุณหภูมิและความดันในกระบวนการฉีดพลาสติก ใช้แม่พิมพ์ที่เย็น ปรับแต่งการระบายความร้อน ปรับแต่งเวลาฉีดพลาสติก และตรวจสอบแม่พิมพ์เป็นประจำ เพื่อให้ชิ้นงานฉีดพลาสติกได้คุณภาพที่ดีและป้องกันการเกิดรอยไม้เหลืองในอนาคต

หากใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามเราได้เลยนะคะ บริษัทดีมาคอุตสาหกรรมจำกัด เราเป็นผู้ผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์การณ์มามากกว่า 30 ปี สามารถผลิตชิ้นงานฉีดพลาสติกได้มีคุณภาพดีมากที่สุดและยังรับฉีดพลาสติกจำนวนน้อยไปจนถึงจำนวนมาก มีบริการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับใครที่สนใจฉีดพลาสติกสามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ

สนใจฉีดพลาสติกติดต่อได้ที่

DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD

3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก

ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

Phone: 02-985-1546, 081-844-8224

Fax: 02-984-1538